วยาสมุนี...ศรีประเสริฐเลิศเดชะทูลเชิญพระพิฆเณศเวศม์สวรรค์ลิขิตมหาภารตะอัศจรรย์บันลือลั่นวรรณกรรมล้ำโลกาเผยมหากาพย์สงครามความขัดแย้งการแก่งแย่งแห่งพี่น้องสองวงศากอปรเการพ-ปานฑพรบบีฑาจนมหาชลธีสีเดือดแดงเหตุเพราะความบอดเขลาวงศ์เการพยอมสยบอาสวะโลภะแฝงหมายช่วงชิงราชทรัพย์กลับยุแยงคอยกลั่นแกล้งวงศ์ปานฑพจึงรบกันเมื่อสองฝ่ายประจัญหน้าขัดตาทัพเสียงสดับสังข์กลองก้องสวรรค์ทวยทแกล้วช้างม้าศัสตราครันจ้องโรมรันศัตรูคู่กรณีณ ทุ่งราบกุรุเกษตรแดนเขตรบฝ่ายปานฑพ-อรชุนเป็นขุนศรีบุตรองค์อินทร์ประทานแก่แม่กุนตีมีสารถี-พระกฤษณะองค์อวตารอินทรบุตร-อรชุนจอมขุนศึกมโนนึกสังเวชเหตุล้างผลาญคราเห็นญาติพี่น้องสองวงศ์วารหมายประหารเข่นฆ่าราวีกันคาณฑีวะ-ธนูศึกถึงร่วงหลุดท้าวเธอทรุดลงวิโยคให้โศกศัลย์ตรัสไม่รบ ! หทัยท้นล้นจาบัลย์ทรงนิ่งงันกลางยุทธมโหรีพระกฤษณะแย้มสรวลสำรวลตรัสพระปรมัตถ์อรรถธรรมล้ำวิถีให้ ธ มุ่งโมกษะละโศกีทำหน้าที่ขัตติยวงศ์ธำรงธรรม์องค์อวตารเนรมิตวิศวลักษณ์มีพระพักตร์หลากหลายพรายเสกสรรดวงเนตรดั่งดวงดาวพราวนับพันล้วนอนันตภาวะพิสดารทิพยรูปรุ่งโรจน์โชติรัศมีดุจอัคนีเจิดจ้ามหาศาลทวยเทพยกกรประณมก้มกราบกรานหมู่ยักษ์มารหวาดหวั่นสั่นฤดีบางทรงจักร ทรงคฑา ศัสตราวุธทรงมงกุฎเปล่งประกายฉายรังสีทั่วจักรวาลแซ่ซ้องร้องสดุดีด้วยฤทธีองค์มหาปรมาตมันพระเป็นเจ้าอวตารประทานถ้อยอย่าท้อถอยปิดประตูสู่สวรรค์ปราบยุคเข็ญกับเราเข้าร่วมกันยึดเรานั้นเป็นสรณะตลอดไป !เราผู้สร้าง ผู้ทำลาย หมายล้างผลาญกำราบพาลทุรชนจนตักษัยเป็นหนึ่งเดียวกับเราเจ้ากำชัยอธรรมไซร้จักพินาศปลาสนาการ !อรชุน-กษัตราวันทาไหว้สิ้นสงสัยใจสงบพบสุขศานติ์ลุกขึ้นสู้ตามประสงค์องค์ภควานสุดห้าวหาญจนชำนะด้วยพระพรมหาภารตะยุทธ์ได้สุดสิ้นทั่วแผ่นดินศพพรายรายสลอนฝ่ายเการพล่มสลายมลายรอนแทนอุทาหรณ์...ธรรมะชนะอธรรม...![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
ด้วยอำนาจอันใดเล่าเฝ้ากระหน่ำ?
คอยเคี่ยวกรำซ้ำโบยเธอโหยหา
รุกเร่งเร้าเช้าค่ำย้ำนานมา
ให้เธอฝ่ามุ่งไปไม่หยุดหย่อน...
ไต่ภูผาป่าไพรธารไหลหลาก
แม้ลำบากเธอบรรลุฝากอนุสรณ์
ทิ้งรอยเท้าเลือนรางบนทางจร
ผ่านหนาวร้อนกี่ฤดูยังสู้ไป
ข้ามฝั่งฟ้ามาบรรจบจนพบฉัน
ในคืนวันเงียบเหงาเฝ้าหวั่นไหว
วันน้ำตาเธอเอ่อท้นล้นทรวงใน
และฉันได้ยินเสียงเพรียกของมัน
เธอเบื่อหน่ายใช่ไหมจึงได้บ่น?
เธอว่ายวนจนครบและพบฉัน
โน่นเห็นไหม! นั่นแสงแห่งพระจันทร์
ความสุขนั้นรอเธอเสมอมา
ทรัพย์ศฤงคารมากมายภายโลกนี้
ฤาจักที่เทียบได้ในคุณค่า
ทรัพย์ภายในแห่งจิตพิจารณา
ชุบชีวาอีกหนพ้นความตาย
หยุดเถอะ! ที่รักฉันจักเอ่ย
เพียงเพื่อเผยสวรรค์อันเฉิดฉาย
โลกแห่งนี้มีเพียงแต่ความตาย
กองกระดูกมากมายสุมก่ายกอง
เดินตามฉันไปสู่...ผู้รู้แจ้ง!
หนทางแห่งอมตะละเศร้าหมอง
เพลิงกำลังเผาโลกเสียงโศกครอง
ร่วมฉลองศักราชแห่งศาสดา
ขบวนแห่แห่งนักบุญยังหนุนเนื่อง
จักเกลื่อนเมืองสุดประมาณผ่านแหล่งหล้า
นำพระพรบุญกุศลล้นคณา
ยกโลกาสู่สวรรค์บันดาลดล
โปรดอย่าช้า! คนดีเดือนปีผ่าน
ปล่อยสังขารล่วงไปไม่เกิดผล
ความตายรอตรงหน้าทุกตัวตน
วันคืนพ้นผันไปไม่แน่นอน....
ดวงตาอันว่างเปล่าเฝ้าจับจ้อง ยังเหม่อมองเพียงเธอเอ่อความหมาย แต่ภาพเบลอแห่งฝันพรรณราย รั้งใจกายเธอสิ้นทั้งอินทรีย์ มืออันอ่อนแรงล้ายังคว้าไขว่ กุมเธอไว้ยามเศร้าเฝ้าถอยหนี แต่วัตถุฉุดกระชากลากคนดี จนไม่มีแม้เวลาชายตามอง บทเพลงซึ้งปนเศร้าเฝ้าขับขาน เพียงมอบแด่ดวงมาลย์วารหม่นหมอง แต่เสียงแห่งภูตพรายหมายจับจอง คงครอบครองโสตเธอจนเพ้อเลือน หัวใจรักหนึ่งดวงอันห่วงหา แทรกลมมามอบเธอเสมอเหมือน แต่รักลวงรุมเร้าเฝ้าบิดเบือน เธอจึงเชือนแชฉัน...ไม่หันมา...
ขอเป็นคนสุดท้าย.....ในหลายร้อย ที่เธอคอยคิดถึงคำนึงหา ก่อนชีวิตล่วงลับกับเวลา แม้ศรัทธาเพียงน้อยค่อยคำนึง ขอเป็นคนคนนี้...ที่ท้ายสุด อาจรั้งฉุดใจเธอเหม่อคิดถึง ก่อนความมืดเข้าครองคล้องรัดรึง จมก้นบึ้งชีวิตคิดถึงกัน ขอเป็นคนท้ายสุด...เธอหยุดคิด ถึงชีวิตแรกเริ่มประเดิมฝัน แล้วพานพบรอยใจในผูกพัน ครั้งเรานั้นร่วมสร้างปางบรรพ์มา ขอเป็นคนคนหนึ่ง...ซึ่งท้ายสุด อาจรั้งหยุดหัวใจใฝ่แสวงหา เพียงความรักหลอกลวงบ่วงมายา ดับโศกาชั่วกัลป์นิรันดร...
ปฐมบทชีวิตน่าคิดนัก สุดตระหนักเข้าถึงซึ่งปุจฉา คนเป็นสัตว์ประเภทใดในโลกา หลากวิชาแบ่งแยกแตกต่างไป บ้างว่าคนเป็นสัตว์จัดกินพืช พวกหน้าจืดชวนหัวมัวสงสัย บ้างว่าสัตว์กินเนื้อเถือตับไต ทฤษฎีใดจะพิสูจน์คำพูดจา พบแพทย์หนึ่งสูงวัยขัยแปดสิบ ท่านกระซิบให้ฟังครั้งศึกษา เพียงสังเกตรูปลักษณ์ประจักษ์ตา มนุษย์หนาคล้ายสัตว์ประเภทใด หน้าตาแหย...เซ่อซ่าหาดุร้าย เทียบวัวควายม้าช้างกวางพอไหว รักสงบมิต้องล่าฆ่าแกงใคร ใบหน้าไกลสิงห์เสือข่มเหยื่อเกรง ระบบฟัน...ยิ่งคล้ายมีหลายซี่ ไม่ต้องมีเขี้ยวยาวกร้าวข่มเหง ใช้ฉีกเนื้อสร้างแผลแถละเลง คล้ายกวางเก้งยีราฟคาบกิ่งใบ ลำไส้ยาวหลายเมตร...สังเกตง่าย จุดมุ่งหมายย่อยพืชยาวยืดไหล ค่อยดูดซึมช้าช้าพาเส้นใย เก็บกักไว้ยาวนานชาญกำลัง ออกลูกทีละหนึ่ง...พึงพิเคราะห์ มนุษย์เหมาะพวกใดใช่เนื้อหนัง ใช้ความไวจับเหยื่อเพื่อประทัง ออกลูกครั้งละมากยากแจกแจง ดูกระทิงอูฐม้า...ครากินน้ำ ใช้ปากทำดูดดื่มลืมหน่ายแหนง หาใช้ลิ้นเลียน้ำดั่งสำแดง เหมือนสัตว์แห่งนักล่าคราดื่มกิน คนเป็นสัตว์พวกใดพอได้คิด แต่พลาดผิดที่ใดให้ถวิล จึงมีโรคมากมายหมายเกาะกิน ยังชีวินคนสั้นบั่นทอนลง หมอเฒ่าว่ากายมนุษย์ทรุดโทรมง่าย เหตุเลียนคล้ายนักล่าพาใหลหลง ร่างกายใช้ย่อยพืชยืดเผ่าพงศ์ กลับทะนงเสพเนื้อใบ้เบื้อธรรม เนื้อนมไข่ครบครันบั่นอายุ จ้องบรรจุพิษร้ายหมายอิ่มหนำ ล้วนอาหารยากย่อยพลอยระกำ โรคกรายกล้ำสายเกินเดินสู่เมรุ ออกกำลังกายประจำ...ท่านย้ำนัก ชีวิตจักอยู่ยาวรุ่นคราวเหลน หมั่นฝึกจิตภาวนาพาจัดเจน ชีพจรเต้นช้าลงยืนยงนาน กินผลไม้เป็นหลัก...จักแสนห้าว ละของคาวเค็มเกินเมินของหวาน สมุนไพรของไทยใช้นมนาน ล้วนต่อต้านโรคร้ายคลายโศกา ข่าพริกขิงตะไคร้ใบกระวานฯลฯ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลฯพูนรักษา โรคมะเร็งห่างไกลไม่ใช้ยา ควรรู้ค่าหาทานอาหารไทย มีคำถามตอนท้ายท่านร่ายเอ่ย อายุยืนที่สุดเลยเคยรู้ไหม? ตอบว่าเต่าพันปีมีทั่วไป กินพืชในทะเลนั้นมันยืนยาว ท่านบอกท่านหมายเป็นดุจเช่นเต่า ร่างกายเล่าคือกระดองป้องร้อนหนาว ใจเฉกหัวเต่านั้นผ่อนสั้นยาว ทุกย่างก้าวมั่นคงดำรงตน ท่านหวังอยู่นานปีร้อยยี่สิบ เสียงกระซิบเชื่อมั่นยืนยันผล สิ้นเสียงพลันหกสูงท่ามฝูงชน ตามด้วยฤาษีดัดตนคนเกรียวกราว!...![]()
![]()
![]()
![]()